กระบวนการย่อยสลายร่างกายมนุษย์ภายในโลงศพ
กระบวนการย่อยสลายร่างกายมนุษย์ภายในโลงศพ ปลายทางสุดท้ายของมนุษยชาติทุกคนที่จะต้องกลับคืนสู่ธรรมชาติ เป็นเรื่องปรกติธรรมดาของมนุษย์ทุกคนที่อาจสงสัยใครรู้ถึงสิ่งที่เราไม่อาจทราบ ว่าเมื่อหากร่างกายของมนุษย์ที่หมดลมหายใจ อยู่ภายในโลงศพจะมีกระบวนการย่อยสลายเป็นเช่นไร วันนี้ สุริยาหีบศพ จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจถึง 11 กระบวนการย่อยสลายของร่างกายมนุษย์เมื่ออยู่ภายในโลงศพกัน
ร่างกายจะเกิดการย่อยสลายตัวเองในทันที
เมื่อมนุษย์เสียชีวิต และเริ่มเข้าสู่กระบวนการชันสูตรพลิกศพ การย่อยสลายของร่างกายมนุษย์จะเกิดขึ้นทันที เรียกว่า กระบวนการย่อยสลายอัตโนมัติหรือการย่อยตัวเอง โดยในระหว่างกระบวนการนี้ ร่างกายจะเริ่มย่อยตัวเอง เนื่องจากเซลล์ต่างๆ ขาดออกซิเจน จึงเริ่มสลายและปล่อยเนื้อเยื่อที่หุ้มเซลล์ที่ถูกย่อยด้วยเอนไซม์ ซึ่งปกติจะเกิดขึ้นในตับและสมองอันดับแรก เนื่องจากมีน้ำและเอนไซม์จำนวนมาก
สภาพศพแข็งตัวภายใน 2-6 ชั่วโมง
สภาพศพแข็งตัว หรือที่เรียกว่า Rigor Mortis (ริกอร์ มอร์ติส) เกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิร่างกายลด เลือดหยุดไหลเวียน ทำให้เลือดเริ่มข้นขึ้นและหลอดเลือดแข็งตัว ส่งผลให้ศพมีลักษณะแข็งทื่อ ไม่สามารถขยับได้ ซึ่งก็มักจะเกิดขึ้น 2-6 ชั่วโมงหลังการชันสูตร
ร่างกายเปลี่ยนสีภายใน 24 ชั่วโมง
หลังจากเวลาผ่านไป 24 ชม. บริเวณของร่างกายที่ใกล้กับพื้นดินมากที่สุดเลือดจะเกิดการตกตะกอนจับตัวเป็นสีน้ำตาลแดง หรือเรียกอีกอย่างว่า คราบหลังชันสูตร เช่น หากล้มโดยศีรษะลงก่อน จะเกิดจุดด่างสีน้ำตาลแดงบนใบหน้า และส่วนอื่นๆ ของร่างกายจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีฟ้าจางๆ ภายใน 8-10 ชม. หลังการชันสูตร
3 วันผ่านไปร่างจะเริ่มส่งกลิ่น
หลังจากการชันสูตร 2-3 วัน จะเริ่มเกิดกระบวนการเน่าเสียจากภายใน เนื่องจากจุลินทรีย์ในลำไส้ยังคงมีชีวิต และจะเริ่มกระจายจากลำไส้ไปทั่วต้นขาและท้อง ทำให้เกิดกลิ่นเหม็น ค้ลายกับกลิ่นไข่เน่าหรือก๊าซมีเทน และอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพอย่าง ลิ้นยื่นออกจากปาก มีคราบสีเขียวบริเวณท้อง และมีของเหลวไหลออกจากทางปากและจมูก
เล็บและขนจะไม่งอกเพิ่ม เพียงแต่ดูใหญ่ขึ้น
เล็บและขนจะไม่ได้งอกเพิ่ม เพียงแต่ดูใหญ่ขึ้น นั่นเป็นเพราะเมื่อผิวหนังแห้งและหดตัว ทั้งเล็บมือและเล็บเท้าจะดูใหญ่ หรือยาวขึ้น และขนบนร่างกายจะดูยาวขึ้น แม้ว่าขนบนร่างกายจะดูเหมือนยาวขึ้น แต่โดยความจริงแล้วจะร่วงค่อนข้างเร็วเสียด้วยซ้ำ เนื่องจากเซลล์ได้เสียสภาพไปแล้ว
การดองศพจะช่วยชลอการเน่าเสีย แต่ไม่ได้ช่วยป้องกันการผุสลาย
ร่างของศพที่ได้รับการดองยา จะช่วยให้กระบวนการย่อยสลายเกิดขึ้นช้าลง แต่ไม่ได้ป้องกันการเน่าเปื่อยได้ โดยสารเคมีที่ใช้ในการดองจะหยุดการทำงานของเซลล์ที่กำลังจะสลายตัว วิธีการดองคือ การระบายเลือดจากหลอดเลือดแดงและแทนที่ด้วยของเหลวที่ไว้ใช้ดอง รวมถึงระบายแก๊สในร่างกายและใช้สำลีอุดเพื่อป้องกันการรั่วซึมของยา
กระบวนการย่อยสลายของร่างกายมนุษย์ จะแตกต่างกันไปตามวิธีการจัดการศพ
ระยะเวลาของกระบวนการย่อยสลายร่างกายมนุษย์ จะแตกต่างกันตามวิธีการจัดการศพ เช่น หากฝังด้วยวิธีธรรมชาติ (ไม่มีโลงศพ) จะใช้เวลาย่อยสลายเพียง 8-12 ปี หากฝังในโลงศพหรือดองศพมาก่อน จะยืดเวลาการย่อยสลายได้อีกหลายปี รวมถึงขึ้นอยู่กับประเภทของโลงศพอีกด้วย (วิธีการฝังศพที่ย่อยสลายได้เร็วที่สุด คือ วิธีการฝังในทะเล ใต้น้ำ ซึ่งสามารถย่อยสลายได้เร็วถึง 4 เท่า)
สภาพศพจะเริ่มดูห่างจากความเป็นมนุษย์ หลังผ่านไป 8 วัน
เมื่อเวลาผ่านไป 8-10 วัน ร่างกายหรือสภาพศพจะมีลักษณะที่ไม่สามารถจดจำได้ เนื่องจากการสลายตัวของเลือด อวัยวะ และช่องท้องที่สะสมก๊าซจากแบคทีเรียธรรมชาติที่กำลังช่วยการย่อยสลาย ร่างกายจึงจะเริ่มเป็นสีแดงเข้ม และเมื่อผ่านไป 2-3 สัปดาห์ ฟันและเล็บก็จะเริ่มหลุดออกเช่นเดียวกัน
ร่างกายจะย่อยสลายช้าลงหลังจากผ่านไป 10 วัน
กระบวนการย่อยสลายในระยะหลังจะเกิดขึ้นเมื่อ 10-24 วัน หลังจากการชันสูตร ซึ่งเนื้อส่วนใหญ่จะแยกออกจากกระดูกด้วยปฏิกิริยาเคมีตามธรรมชาติ กลิ่นจะจางลง หรือมีกลิ่นอ่อนๆ คล้ายชีส และการย่อยสลายจะช้าลง เนื่องจากมีอินทรียวัตถุให้ย่อยสลายน้อยลงแล้ว
ส่วนที่เป็นเนื้อส่วนใหญ่จะหายไปในเวลาไม่ถึงเดือน
หลังจากร่างกายมนุษย์ที่อยู่ภายในโลงศพมานานถึง 24 วันเนื้อเยื่อส่วนใหญ่จะสลายตัวหรือถูกแมลงกัดกิน ส่วนที่ยังคงเหลืออยู่ คือ กระดูกอ่อน กระดูก และผิวหนังที่แห้ง แต่ กระบวนการนี้จะย่อยสลายได้รวดเร็วขึ้น หากว่าร่างกายเจอแสงแดดธรรมชาติ
สู่กระบวนการที่ร่างกายกลายเป็นฟอสซิล
และเมื่อร่างกายมนุษย์อยู่ภายในโลงศพมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ปัจจัยต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการย่อยสลายของร่างกายมนุษย์ จนร่างกายกลายเป็นฟอสซิล อาจใช้เวลาตั้งแต่ 2-3 สัปดาห์ จนไปถึงหลาย 10 ปี ซึ่งขั้นตอนสุดท้ายของการสลายตัวนี้เรียกว่า ‘ไดอะเจเนซิส’ (Diagenesis) ที่ร่างกายสูญเสียความชื้นไปจนหมดสิ้นเหลือไว้เพียงแต่กระดูก
ทั้งนี้ กระบวนการย่อยสลายร่างกายมนุษย์ภายในโลงศพ จากในระยะเริ่มต้นไปยังระยะสุดท้ายที่ร่างกายกลายเป็นฟอสซิล ระยะเวลาเหล่านี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขึ้นอยู่กับขั้นตอนในการเตรียมศพ สภาพศพ สภาพอากาศ ประเภทของโลงศพ เป็นต้น หรืออาจเกิดกระบวนการย่อยสลายที่ช้า แต่โดยพื้นฐานตามธรรมชาติแล้วนั้นใช้เวลาหลาย 10 ปี การทำความเข้าใจถึงกระบวนการย่อยสลายของร่างกายมนุษย์นี้นั้น อาจทำให้ทุกคนที่ได้อ่านเข้าใจในคุณค่าของชีวิตมนุษย์ เพื่อเตือนใจว่าไม่ว่าเราจะเป็นใคร ท้ายที่สุดก็ต้องกลายเป็นผงธุลีและเถ้ากระดูกอยู่ดี หากใครต้องการที่จะส่งคนที่คุณรักเป็นครั้งสุดท้าย สุริยาหีบศพขอเป็นตัวช่วยให้คนที่คุณรักจากไปอย่างสวยงามและสงบที่สุด โดยเราจำหน่ายโลงศพ สินค้าและบริการเกี่ยวกับงานศพครบวงจร พร้อมยินดีให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง สามารถติดต่อเราได้ที่
Tel: 02-950-0989 (ตลอด 24 ชม.)
Website: https://suriyacoffin.com/