พิธีกรรมงานศพของไทยแต่ละภาค

พิธีกรรมงานศพของไทยแต่ละภาค การตายเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ปรารถนาแต่เป็นสิ่งที่ทุกคนหนีไม่พ้นทุกคนเกิดมาแล้วย่อมดับสูญไป เมื่อมีการตายพิธีกรรมต่อมาคืองานศพ งานศพกับความเชื่อเป็นสิ่งที่มีความเกี่ยวโยงกันมาอย่างช้านาน ดังนั้นจึงไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยว่าการจัดงานศพนั้นมีความเชื่อและข้อปฏิบัติต่าง ๆ ที่ถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ขั้นตอนในบางขั้นตอนก็อาจจะไม่ได้มีความสำคัญมากกับคนในยุคนี้แล้ว ด้วยค่านิยมและความคิดของคนในสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา นอกจากนั้นภูมิภาคทั้งสี่ของไทยต่างก็มีวัฒนธรรมและความเชื่อที่แตกต่างกันไป 

ภาคกลาง

  • ขั้นตอนการจัดงานศพในภาคกลางก็จะมีธรรมเนียมบางอย่างคล้ายคลึงกับหลาย ๆ ภาคในประเทศไทย โดยเมื่อมีการเสียชีวิตเกิดขึ้นแล้วก็จะต้องมีการเลือกสถานที่ว่าจะจัดงานที่ไหน หากใครสะดวกจัดงานที่บ้านก็จำเป็นจะต้องมีการนิมนต์พระเข้าบ้าน แต่สำหรับใครที่มีพื้นที่ไม่เพียงพอก็มักจะนิยมเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตไปจัดงานกันที่วัดเลย โดยขั้นตอนแรกของงานศพในภาคกลางก็คือ ‘การรดน้ำศพ’ โดยพิธีการนี้จะแบ่งออกเป็นสองช่วงคือ อาบน้ำชำระล้างศพจริง ๆ กับพิธีรดน้ำที่เปิดให้แขกทั่วไปเข้ามารดน้ำอบบริเวณมือของผู้เสียชีวิตได้ โดยในภาคกลางนิยมสวดอภิธรรมศพก่อนการเผา โดยสามารถเลือกจำนวนวันได้ตามความสะดวก หลังจากเผาแล้วก็จะมีพิธีทำบุญเก็บอัฐิหรือลอยอัฐิขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละครอบครัว

 

พิธีกรรมทางศาสนาพุทธในการจัดงานศพของไทย  

ภาคเหนือ

  • การจัดพิธีศพในภาคเหนือนั้นจะขออิงจากยุคสมัยของวัฒนธรรมล้านนา  ขั้นตอนการทำพิธีศพของคนในภาคเหนือนั้น เมื่อมีคนตาย ญาติพี่น้องก็จะรีบไปติดต่อซื้อโลงศพและปราสาททันที การตั้งศพจะประกอบด้วยโลงศพมีการประดับประดาด้วยไฟสีหรือไฟกระพริบอย่างสวยงาม ก่อนที่จะนำโลงศพขึ้นบรรจุบนปราสาท จะมีการทำพิธีกรรมทางสงฆ์คือการทานปราสาทก่อน โดยจะนิมนต์พระสงฆ์มาเป็นผู้ทำพิธีก่อนที่ชาวบ้านและบรรดาลูกหลานของคนตายจะช่วยกันยกโลงศพขึ้นบรรจุบนปราสาท ซึ่งพิธีทานประสาทมักจะทำก่อนวันเผา 1 วัน ซึ่งมักจะนิยมจัดหาวงดนตรีมาทำการบรรเลงเพลง โดยนิยมจัดงานโดยรวมเป็นเวลา 3 -5 วัน ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละบุคคล การเผาศพจะนิยมทำกันที่วัดในพื้นที่ หากแต่พื้นที่ไหนวัดไม่มีเมรุ ก็จะนิยมทำพิธีนี้กันที่ป่าช้าหรือ ‘ป่าเหี้ยว’ แทน

 

ภาคอีสาน

  • สำหรับในภาคอีสานความเชื่อในเรื่องของการจัดงานศพนั้นในปัจจุบันและอดีตก็คงจะมีในหลายส่วนที่แตกต่างออกไปบ้างแล้ว แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อครั้งหนึ่งในอดีต ชาวภาคอีสานก็มักจะมีความเชื่อที่ว่าจะไม่นิยมอาบน้ำ และเผาศพที่ตายโหง ตายท้องกลม จะใช้วิธีฝังดิน ส่วนการเก็บศพนั้นขึ้นอยู่ฐานะของญาติผู้ตายแต่ไม่เกิน 3 วัน เพราะไม่มียาฉีดกันเน่าใช้เพียงปูขาว ยาสูบปูรองพื้นโลง ปัจจุบันจะเก็บศพด้วยโลงเย็นจึงเก็บไว้นานเพื่อรอญาติที่อยู่ไกลได้มาร่วมงานศพ นอกจากนั้นยังมีธรรมเนียมหนึ่งที่ปฏิบัติต่อกันสืบมานั่นก็คือการหวีผมให้กับผู้เสียชีวิตโดยหวีไปข้างหน้าครึ่งหนึ่งข้างหลังครึ่งหนึ่ง โดยมีความเชื่อว่าจะเป็นเสมือนสัจธรรมว่าชีวิตล้วนมีเกิด มีตาย แยกจากกันไม่ได้เพราะเป็นของคู่กันมานั่นเอง และอีกหนึ่งธรรมเนียมปฏิบัติที่ชาวภาคอีสานมักจะทำในงานศพนั่นก็คือการสร้างบันไดสามชั้น เพื่อเป็นการสื่อถึงภพภูมิทั้ง 3 ของมนุษย์ โดยจะสร้างเอาไว้บริเวณด้านหน้าของโลงศพนั่นเอง

 

ภาคใต้

  • สำหรับการจัดงานศพในภาคใต้นั้น จะมีความเชื่อในเรื่องของการจัดงานศพที่ว่า หากถ้าผู้ที่เสียชีวิตยังเป็นเด็ก หรือเป็นทารกที่เพิ่งคลอดจะไม่นิยมจัดงานหรือเผาศพในทันที แต่จะต้องมีการนำเอาร่างนั้นไปฝังเอาไว้เสียก่อน โดยจะต้องทำการฝังภายในวันนั้นทันที และนิมนต์พระสงฆ์มาสวดมนต์ทําพิธีในบริเวณนั้นแทน  แต่ถ้าหากผู้เสียชีวิตเป็นเด็กที่มีอายุหรือเป็นผู้เสียชีวิตทั่วไปไม่ใช่เด็กทารก ก็จะมีการทำพิธีหนึ่งที่เรียกว่า ‘พิธีดอย’ ซึ่งพิธีนี้เป็นพิธีทางความเชื่อพื้นบ้านของชาวบ้านในบางพื้นที่ โดยเมื่อมีผู้เสียชีวิตญาติจะต้องจุดเทียนขึ้ผึ้งหนักหนึ่งบาท มีไส้ ๗ เสัน ตั้งไว้จนเทียนหมดเล่ม จึงเชื่อว่าตายสนิท จากนั้นไปเชิญผู้ที่มีความรู้ในทางเวทมนตร์หรือหมอผีมาเสกทำนํ้ามนต์ เพื่อขับไส่ผีสางและปัดรังควาน การประพรมน้ำมนฅ์ที่ซากศพเพื่อป้องกันมิให้วิญญานเป๋็นผีดุรัาย และกลับมาอาละวาดหลอกหลอน  การทำพิธีดอยมักจะทำกับคนที่ตายด้วยอุบัติเหตุ ตายทั้งกลม ถูกฆ่าตาย เรียกการตายในลักษณะนี้ว่า “ตายโหง” 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

ซึ่งความเชื่อและธรรมเนียมปฏิบัติต่างๆ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการจัดงานศพตามความเชื่อของคนในภาคต่าง ๆ ของไทยเท่านั้น เนื่องจากการจัดงานศพเริ่มมีมาตั้งแต่ที่มนุษย์เราถือกำเนิดขึ้นหลายร้อยหลายพันปีก่อนมาแล้ว ดังนั้นมันย่อมมีการเปลี่ยนแปลง พัฒนา และผนวกรวมเข้ากับแนวความคิดใหม่ ๆ ตลอดจนปรับให้เข้ากับวิถีชีวิตแบบใหม่ที่ดำเนินไปในทุกนาที ดังนั้นในปัจจุบันเราก็อาจจะไม่สามารถเห็นขั้นตอนการจัดงานศพแบบที่เคยมีในอดีตแล้วก็ได้นั่นเอง สำหรับท่านใดที่ต้องการสอบถามเกี่ยวกับโลงศพ หรือ การบริจาคโลงศพ และอุปกรณ์ในการทำพิธีแบบครบวงจร มีทุกศาสนาทุกรูปแบบ สามารถปรึกษาสุริยาหีบศพได้เลยนะคะ หรือสามารถดูในเว็บไซต์ Suriya Coffin เพื่อขอดูโปรโมชั่นในการจัดงานศพ โลงศพ ดอกไม้หน้าโลงศพ หรือรถรับส่งได้ เมื่อถึงเวลาในการเคลื่อนย้ายจะได้ไม่เกิดความผิดพลาด โดยทางเราพร้อมให้บริการตลอด 24 ชม. ด้วยประสบการณ์ด้านโลงศพที่ยาวนาน การันตีคุณภาพโลงศพ และบริการของทางเรา มีโลงศพให้เลือกมากกว่า 100 แบบ อาทิ โลงศพเทพพนม โลงศพไม้สัก โลงศพจำปา โลงศพคริสต์ เป็นต้น หากเกิดข้อสงสัยเรื่อง โลงศพ ดอกไม้หน้าโลงศพ สามารถปรึกษาได้ที่ โทร 02-950-0989 ได้ตลอด 24 ชม. เรายินดีให้บริการค่ะ

 

สามารถติดต่อเราได้ที่

Website : http://www.suriyacoffin.com

Inbox : https://www.facebook.com/suriyacoffin/

Tel : 02-950-0989

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *